วิธีคิด การมองการณ์ไกลและการตัดสินใจที่ชาญฉลาด คือ ความแตกต่างระหว่างเศรษฐีกัับคนที่ขยันทำงานหนัก เราคงเคยเห็นคนที่ทำงานหนักมาตลอดแต่ชีวิตก็ยังไม่ดีขึ้น กับบางคนไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด สงสัยรึเปล่าว่ามันเกิดอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น มีคำแนะนำบางอย่างที่ คนสำเร็จ มหาเศรษฐี หรือ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งหลายต่างให้พูดเหมือนกันถึงวิธีการที่พวกเขาทำ แม้ว่าวิธีการเหล่านี้จะไม่สามารถยืนยันได้ว่าถ้าทำตามแล้วจะสำเร็จเป็นเศรษฐีได้จริง แต่มันก็สร้างความแตกต่างให้กับชีวิตพวกเขาได้
- 8 เคล็ดลับสู่ความร่ำรวยของมหาเศรษฐี ที่ใครๆก็ทำได้
- 1.เงินไม่ใช่ทุกอย่าง
มันอาจฟังดูเป็นเรื่องตลกที่เราได้ยินคำพูดนี้จากปากของคนที่ร่ำรวยและมีเงินมากจริงอยู่ว่าเงินสามารถทำให้ชีวิตของคุณสะดวกสบายขึ้นได้มันสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของเราให้ดีขึ้นทันตาเห็น แต่อย่าลืมว่าบางอย่างเงินก็ซื้อไม่ได้ เช่น สุขภาพ ความรัก มิตรภาพ และ ครอบครัว การมีเงินเยอะๆบางทีก็เทียบไม่ได้กับการที่มีครอบครัวอยู่ใกล้ๆ เราไม่ควรให้ความสำคัญกับเงินมากเกินไปจนลืมว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตเรา
- 2.ล้อมรอบตัวคุณด้วยคนที่ประสบความสำเร็จ
การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนที่ประสบความสำเร็จ จะช่วยกระตุ้นให้เราได้พัฒนาตัวเอง เพิ่มแรงบันดาลใจให้เราได้ก้าวต่อไปข้างหน้าช่วยขยายความคิดและยกระดับรายได้ของเราให้มากขึ้น เพราะมนุษย์จะมีแนวโน้มในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปตามสภาพแวดล้อมที่อยู่ มันเป็นสัญชาตญาณของการเอาตัวรอด หากเราพาตัวเองไปอยู่ในกลุ่มคนสำเร็จ นั่นก็หมายความว่าเราก็จะมีโอกาสที่จะสำเร็จได้เช่นกัน
- 3.มีรายได้แบบ Passive Income
ไม่มีใครที่ร่ำรวยจากการทำงานหนักเพียงอย่างเดียว เราต้องมีวิธีการทำงานที่ชาญฉลาดด้วย พยายามใช้เงินให้ทำงานแทนเราให้ได้ ให้รายได้ของเรายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำงานแล้วก็ตาม Mark Cuban เจ้าของทีมบาสเกตบอล Dallas Mavericks ใน NBA พูดว่า “คุณสามารถมีเงินล้านดอลลาร์ได้หรือไม่? คุณทำได้ แต่คุณต้องมีวินัยจริงๆ คุณต้องเป็นคนที่มีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย ส่วนหนึ่งของความเสี่ยงอาจจะเป็นการใส่เงินเข้าไปในกองทุนรวมที่มีต้นทุนต่ำ “ ความหมายของเขาก็คือ ให้คุณรู้จักนำเงินที่มีไปลงทุนบ้าง ไม่ใช้เก็บไว้เพียงอย่างเดียว ให้เงินทำงานแทนคุณ
- 4.อยู่ภายใต้วิธีการของคุณ (ทางสายกลาง ความพอเพียง )
วิธีการเดียวที่คุณสามารถเพิ่มความมั่งคั่งของคุณได้คือการใช้ชีวิตภายใต้วิธีการของคุณจนกว่าคุณจะมีความปลอดภัยด้านการเงินจริงๆ ใช้จ่ายตามความจำเป็น ใช้ชีวิตแบบพอเพียงไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ไม่ใช้จ่ายสุหรุ่ยสุหร่ายไปกับเครื่องประดับที่ไม่จำเป็น นำสิ่งที่เรามีอยู่มาสร้างคุณค่าให้ได้มากที่สุด
- 5.ไม่ใช้จ่ายเกินตัว
T. Boone Pickens มีทรัพย์สินมูลค่าสุทธิประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญกล่าวว่า:“ผู้คนรู้สึกประหลาดใจเสมอที่ไม่มีตู้เสื้อผ้าเต็มไปด้วยชุดสูท ฉันซื้อชุดสูทสามชุดทุกๆห้าปีหรือมากกว่านั้นและมีเพียงสิบชุดเท่านั้น นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการ “ ไม่มีความจำเป็นใดๆที่เราจะต้องซื้อเสื้อผ้ามากมาย ทั้งที่เราใส่จริงๆอยู่ไม่กี่ชุดจริงมั้ยครับ เราควรควบคุมพฤติกรรมการช็อปปิ้งของเราและก่อนที่คุณจะซื้ออะไรถามตัวเองว่าเราต้องการจริงๆหรือไม่ ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันควรสัมพันธ์กันรายได้ที่เราได้รับ ถ้าเรา หาเงินได้วันละ 500 บาท เราก็ควรใช้จ่ายวันละ 200 บาท หรืออาจจะน้อยกว่านั้นก็ได้ เพื่อเก็บออมหรือนำเงินไปลงทุนอย่างอื่น เพื่อสร้างรายได้ต่อไป
- 6.ซื้อของจากผู้ผลิตโดยตรง
การที่เราซื้อของจากผู้ผลิตโดยตรง จะทำให้เราได้ราคาที่ถูกลง แต่ข้อนี้อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยากสำหรับในบ้านเรา เพราะการซื้อของจากโรงงานหรือผู้ผลิตโดยตรงนั้นส่วนใหญ่แล้วก็ต้องซื้อในจำนวนมากๆ แต่ถ้าสามารถทำได้ ก็จะทำให้เราประหยัดและมีเงินเก็บได้มากขึ้น
- 7.อย่าใช้บัตรเครดิต
Mark Cuban พูดว่า
“บัตรเครดิตเป็นการลงทุนที่เลวร้ายที่สุดที่คุณสามารถทำได้ ว่าเงินที่ฉันประหยัดดอกเบี้ยโดยไม่ต้องมีหนี้สินดีกว่าผลตอบแทนใด ๆ ที่ฉันอาจจะได้รับโดยการลงทุนเงินในตลาดหุ้นที่ ฉันคิดว่าฉันจะเป็นอัจฉริยะตลาดหุ้น จนกระทั่งฉันทำไม่ได้ เพราะว่าฉันต้องชำระหนี้บัตรเครดิตของฉันทุกๆ 30 วัน.” มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มีหนี้สินมากมายเพราะการใช้บัตรเครดิตอย่างไม่มีสติ บัตรเครดิตคือส่ิ่งที่ช่วยกระตุ้นความอยากของเราให้เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี มันทำให้เราหลงลืมความสามารถในการหาเงินของ ตัวเอง ใครที่ยังไม่ได้ทำบัตรเครดิตแนะนำเลยว่าไม่ต้องทำ แต่สำหรับคนที่ทำแล้วจงจำกฎเหล็กข้อ 1 ไว้ว่า “อย่าจ่ายขั้นต่ำเป็นอันขาด” เพราะถ้าคุณจ่ายขั้นต่ำอัตราดอกเบี้ยของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
- 8.ใช้กฎ 50/20/30
จัดสรรงบประมาณตามกฎทองคำนี้
- 1.สำรอง 50% สำหรับค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายประจำเดือน
- 2.เก็บรายได้ 30% เพื่อความบันเทิงและช้อปปิ้ง
- 3.เก็บ 20% เพื่อการออมและการลงทุน
แหล่งที่มา : blognews.video