49 / 100

ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการความร่ำรวยและชอบที่จะหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องเงิน ๆทอง ๆ คิดว่าคุณต้องเคยอ่าน หรือเคยได้ยินหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก”  หรือในชื่อ ภาษาอังกฤษ “Rich Dad Poor Dad” ที่เขียนโดย คุณ Robert  Kiyosaki  มาบ้างแล้ว เพราะหนังสือเล่มนี้ถือเป็นตำนานของแนวคิด เรื่องการเงินที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนมากมายทั่วโลก หนังสือเล่มนี้ได้ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์เรืองการทำธุรกิจและการเงินของคุณ Robert  Kiyosaki และคุณ Kim  Kiyosaki  ภรรยา ที่สามารถเกษียณตัวเองจากการทำงานและมีอิสรภาพทางการเงิน ได้ในตอนที่เขามีอายุ 47 ปีและภรรยาของเขาอายุ 37 ปี ซึ่งถือว่าเป็นการเกษียณอายุที่เร็วมาก 1 ในวิธีการที่ทั้ง 2 ท่านใช้ในการทำให้ตัวเองมีอิสรภาพทางการเงิน  ก็คือ “การจ่ายให้ตัวเองก่อนเสมอ”  ซึ่งเราจะมาเรียนรู้ไปด้วยกันในบทความนี้

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนหรือทำธุรกิจส่วนตัว เมื่อมีรายได้เข้ามา เราก็มักจะนำเงินที่ได้นั้นไปใช้จ่ายก่อนเสมอใช่มั้ยครับ เช่น จ่ายค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต เมื่อจ่ายเสร็จแล้วส่วนที่เหลือก็จะนำมาใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตหรือเก็บออม ซึ่งมันน้อยมาก หรือ บางเดือนก็แทบจะไม่พอ เป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ทุกๆเดือน  วิธีการกันเงินสำหรับการลงทุนในอนาคตแม้ว่าจะมีหนี้เสียที่ต้องชำระก็ตาม คือ การเลือกที่จะจ่ายให้กับตัวเองก่อน ด้วยวิธีการกันเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ทันทีเพื่อไปสร้างสินทรัพย์เก็บไว้ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะมีเงินลงทุนในอนาคตต่อไปภายหลัง ในการเริ่มต้นทำแบบนี้แรกๆคุณอาจจะมีความรู้สึกหรือข้อขัดแย้งว่าเงินที่เหลือจากการจ่ายให้ตัวเองก่อน มันจะพอกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่นหรือเปล่า แต่เชือเถอะว่าการทำแบบนี้จะทำให้สุขภาพด้านการเงินของคุณดีขึ้นได้แบบไม่น่าเชื่อ


วิธีจ่ายเงินให้ตัวเองก่อน

อันดับแรก คือ อย่างสร้างภาระหนี้สินมากจนเกินไป พยายามรักษาค่าใช้จ่ายให้ต่ำลง เน้นเรื่องการสร้างทรัพย์สินก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องซื้อบ้าน ซื้อรถที่หลัง

อันดับที่สอง เมื่อมีภาระรายจ่ายเพิ่มขึ้น อย่านำเงินออมออกมาใช้จ่ายเด็ดขาด เพราะหนึ่งในนิสัยที่น่าสงสารที่สุดของคนจนหรือคนชั้นกลาง มักจะออมเงินไว้เพื่อจ่ายในยามฉุกเฉิน ควรหาวิธีการใหม่ๆ หรือพัฒนาตัวเองในการเพิ่มรายได้แทน

เมื่อมีหนี้สินต้องชำระเราจะประหยัดเงินได้อย่างไร

คุณ Robert และคุณ Kim  มีหนี้สินประมาณ 400,000 ดอลลาร์ หรือ 12 ล้านบาทในปี 1984 แต่สามารถปลอดหนี้ได้ในปี 1990  พวกเขาใช้เวลาเพียง 6 ปีในการชำระหนี้ 12 ล้านบาทได้ด้วยวิธีนี้

1.หยุดก่อหนี้เสียทันที หนี้เสียก็คือหนี้ที่ไม่ทำให้เกิดรายได้เช่น หนี้รถ หนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต  หนี้เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ไม่ได้สร้างรายได้เข้ามาให้กับเรา

2.จัดทำรายการหนี้ทั้งหมด ว่ามีเท่าไหร่ ทั้งหนี้ดี และ หนี้เสีย เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้การศึกษา  หนี้อื่นๆที่มี เพื่อให้ทุกอย่างมีการจัดระเบียบอย่างชัดเจนและเป็นสัดส่วน

3.จ้างคนทำบัญชีเพื่อที่จะให้คุณไม่สามารถโกหกตัวเองได้ (ในข้อนี้อาจให้คนในครอบครัวเป็นคนทำบัญชีแทนเราก็ได้ เพื่อจะได้ตรวจสอบได้จริงๆว่าสถานะทางการเงินของเราอยู่ตรงไหน (ผู้เขียน)

4.กำหนดสัดส่วนในการจ่ายให้ตัวเองเอาไว้อย่างชัดเจน เงินทุกบาทที่เข้ามาจะต้องกันเอาไว้ตามสัดส่วนที่ได้กำหนดเอาไว้   ตย.ของครอบครัวคุณ Robert และคุณ Kim  จะมีกระปุกเอาไว้ 3 ใบ

 

pay yourself first semi pie chart

ใบทืี่หนึ่ง สำหรับเก็บออม 10 %

ใบที่สอง  สำหรับการกุศล 10 %

ใบที่สาม สำหรับการลงทุน 10 %

สมมุติว่าเรารับรายได้มา 100 บาท 10 บาทแบ่งใส่ธนาคารเพื่อเก็บออม อีก 10 บาทเอาไว้ทำบุญ และอีก 10 บาทเอาไว้เพื่อลงทุน หลังจากที่จ่ายให้ตัวเองแล้วก็หาวิธีจ่ายให้คนอื่นตามวิธีใน ข้อที่ 5

5.กำหนดลำดับในการชำระหนี้แต่ละครั้ง โดยกำหนดลำดับการชำระหนี้จากขั้นต่ำสุดก่อนและดำเนินการในการชำระหนี้นั้นให้หมด เช่น เราอาจจะเป็นหนี้หรือมีค่าใช้จ่ายอยู่ 3 รายการ ให้เลือกชำระรายการที่ต่ำสุดก่อนและต้องชำระให้หมด สำหรับลำดับอื่นๆให้ชำระในขั้นต่ำหรือเท่าที่จะชำระได้ไปก่อน เมื่อลำดับแรกชำระหมดแล้วก็ให้ทำวิธีการเดิมในลำดับต่อไป

ตย. รายจ่าย 3 รายการ

1.ค่าบัตรเครดิต                                      25,000   บาท   (จ่ายส่วนหนี้ให้หมดเป็นอันดับแรก) และไม่ก่อหนี้ใหม่

2.ค่ารถ                                                     500,000   บาท  (จ่ายส่วนหนี้เป็นอันดับที่ 2 )

3.ค่าบ้าน                                               1,000,000 บาท  (จ่ายส่วนนี้เป็นอันดับที่ 3 ) อาจใช้การรีไฟแนนซ์

6.ต้องปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้ให้ได้ทุกๆเดือน เพื่อสร้างนิสัยให้กับตัวเอง

ในที่นี้ “การจ่ายให้ตัวเองก่อน” ไม่ใช้การปรนเปรอความสุขความสบายให้กับตัวเอง อยากจะซื้ออะไรก็ซื้อนะครับ จุดประสงค์ของการจ่ายให้ตัวเอง ก็เพื่อให้เราสามารถนำเงินไปลงทุน ให้เงินทำงานแทนเรา โดยกฎทองของครอบครัว Kiyosaki ก็คือ จะไม่นำเงินในส่วนที่เป็นสินทรัพย์มาใช้โดยเด็ดขาด  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ซื้อความสุขให้ตัวเองนะครับ วิธีการที่คุณ Robert และคุณ Kim  ใช้ในการตอบสนองความต้องการของตัวเองก็คือ หาช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการสร้างความสุขให้ตัวเอง

ตัวอย่าง

คุณ Robert ชอบรถ ปอร์เซ่ อยากจะได้มาครอบครองเขาก็ใช้วิธีไปหาธุรกิจที่มีกระแสเงินสดเข้ามาเพื่อให้จ่ายค่ารถได้  โดยไม่ได้นำเงินที่อยู่ในส่วนของการออมมาใช้เลย เอาให้เข้าใจง่ายขึ้นอีกหน่อย ก็คือ สมมุติว่าคุณผู้หญิงต้องการสนองตันหาตัวเองด้วย เครื่องประดับสวยๆราคาหลักหมื่น จากที่จะต้องใช้เงินเดือนหรือเงินเก็บมาซื้อก็ใช้วิธีหารายได้เพิ่ม ด้วยการขายของออนไลน์แล้วนำกำไรที่ได้มาซื้อ วิธีแบบนี้ก็จะไม่กระทบเงินที่เก็บเอาไว้เลย

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงจะได้แนวคิดและวิธีการในการสร้างอิสรภาพทางการเงินไปได้บ้างนะครับ การเริ่มต้นนั้นมันอาจจะยากหน่อย แต่ถ้าเราไม่เริ่มสักทีความฝันสู่อิสรภาพทางการเงินก็คงเป็นไปไม่ได้ วิธีการที่ผมได้นำมาแบ่งปันนี้เป็นวิธีที่ผ่านการลงมือทำมาแล้ว และเป็นวิธีที่ทำได้จริง จากคุณ คุณ Robert และคุณ Kim  Kiyosaki  ผมไม่ได้อุปโหลกขึ้นมาเอง เนื้อหาส่วนใหญ่นำมาจากเว็ปไซต์  www.richdad.com     ซึ่งทั้ง 2 ท่านเป็นเจ้าของบทความ ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนโดยเฉพาะคนไทยที่ไม่ค่อยได้เรียนรู้เรื่องของการเงินมากนัก จึงอยากจะเอามาแบ่งปัน ในมุมมองความเข้าใจของผมเอง ถ้าท่านผู้อ่านท่านไหนมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษก็สามารถเข้าไปอ่านได้ด้วยตัวเองนะครับ หวังว่าบทความนี้จะสามารถสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ทุกท่านได้

พบกันที่อิสรภาพทางการเงินครับ

โดยความปราถนาดี

#Mr.P

 

 

 

 

 

error: Content is protected !!