หน้าตาดูดี กระจ่างใส ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเราได้นะครับ เพราะหน้าตาคือสิ่งแรกที่คนเราจะมอง หากเรามีหน้าตาที่สะอาดสดใสก็เรียกว่าได้ใจไปกว่าครึ่งแล้ว บทความนี้ผมจึงอยากจะมาแบ่งปันวิธีการรักษาสุขภาพของผิวพรรณบนใบหน้าให้ทุกคนได้นำไปใช้กัน เป็นวิธีที่ง่าย และทุกคนสามารถนำไปใช้กันได้จริง ลองไปดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
- ขั้นที่ 1
การทำความสะอาด
:
คือ บันไดขั้นแรก ที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของการ ดูแลสุขภาพ
ทุกชนิดก็ว่าได้ หากเรามีการดูแลทำความสะอาด ผิวพรรณ
ที่ถูกต้องตั้งแต่แรกแล้ว การดูแลในขั้นต่อไป ก็จะทำได้ง่ายขึ้น
:
จริงอยู่ว่าการดูแลทำความสะอาดร่างกายผิวพรรณ
เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าหากเรามุ่งแต่ทำความสะอาดมากจนเกินไป
จากที่เป็นผลดี ก็อาจจะเป็นผลเสียได้ ดังนั้นเราควรจะเข้าใจ
วิธีการดูแลทำความสะอาดผิวพรรณที่ถูกต้องเสียก่อน
เพื่อเป็นพื้นฐานในการดูแลผิวในขั้นต่อไป
:
ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ แนะนำว่าในวันหนึ่งๆ เราควรทำความสะอาดผิววันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้า และ ก่อนนอน ด้วยน้ำอุ่น และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่มีแอลกอฮอล์(ยกเว้นคนที่ มีผิวมันมากๆ) สบู่ หรือ สารทำความสะอาดรุนแรง ที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
:
ขั้นตอนการทำความสะอาดผิว ที่ถูกวิธีควรเริ่มจาก
1.บีบผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือเล็กน้อย2.ป้ายผลิตภัณฑ์บนใบหน้า 5 จุด ได้แก่ หน้าผาก จมูก แก้ม 2
ข้าง และ คาง3.ใช้นิ้วกลาง และ นิ้วนาง ถูผลิตภัณฑ์ให้ทั่วใบหน้า ประมาณ
30 วินาที อย่างเบามือ4.ล้างด้วยน้ำสะอาด หลายๆครั้ง ไม่ควรใช้มือถู บีบ เกา หรือ
ใช้น้ำฉีดที่หน้าโดยตรง5.ซับหน้าด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ แค่พอหมาด ไม่ควรถูหรือเช็ด
หน้าจะแห้งสนิท หรือ เช็ดอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้หน้า
เกิดการระคายเคือง และสูญเสียความชุ่มชื่นไปอย่างรวดเร็ว6.ทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือ ครีมบำรุงผิว ในขณะที่ผิวยังหมาดๆ
ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากและน้อยจนเกินไปให้ทั่วใบหน้า
จากนั้นกระตุ้นผิว โดยการใช้นิ้วกลางและนิ้วนางนวดวนเป็น
วงกลม อย่างเบามือให้ทั่วใบหน้าอีกครั้ง7.ตบหน้าเบาๆ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึมซาบสู่ผิว
ได้เร็วยิ่งขึ้น
DeadSea Mud Foam โฟมล้างหน้าประสิทธิภาพสูง
กุญแจสำคัญในการมีสุขภาพผิว ที่ดีคือการรักษาความสะอาดที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพผิว ควรดูแลเรื่องความสะอาดของผิวพรรณ อย่างสม่ำเสมอทุกครั้งที่ต้องออกไปเผชิญกับมลภาวะ ฝุ่นละออง แสงแดด หรือ คราบเหงือไคล ควรทำความสะอาดทันที ไม่ควรหมักหมมไว้ เพราะมันจะเป็นสาเหตุทำให้ผิวอุดตันจนเกิดเป็นสิวขึ้นมาได้
- ขั้นที่ 2
การใช้โทนเนอร์
:
มีหลายคนที่เข้าใจผิดว่าการ ใช้โทนเนอร์นั้นมีความจำเป็น
ต่อการดูแลผิว แต่ความเป็นจริง เราไม่จำเป็นต้องใช้โทนเนอร์กันทุกคน
:
การใช้โทนเนอร์จะเหมาะกับคนที่มีสภาพผิวที่มันมากจนการล้างหน้าทำความสะอาดธรรมดาไม่เพียงพอให้ ความมันที่เหลือหมดไป จึงจำเป็นต้องใช้โทนเนอร์เช ็ดทำความสะอาดอีกครั้ง
:
สำหรับสภาพผิวที่ไม่เหมาะกับการใช้โทนเนอร์เลย คือ ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย เพราะโทนเนอร์ ส่วนมาก จะผสม แอลกอฮอล์ หรือ วิตซ์เฮเซล ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดการระคาย เคืองได้ง่าย
:
หากเป็นคนที่ชอบการใช้โทนเนอร์จริงๆ ก็ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่มี ส่วนผสมของ คาร์โมมาย แทนเพราะจะช่วยให้ผิวมีความชุ่ มชื่นและลดการเกิดอาการแพ้ไ ด้มากกว่า
:
ข้อควรปฏิบัติ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โทนเนอร ์เช็ดทำความสะอาดก่อน ทาครีมบำรุงผิว เพราะจะทำให้ ครีมบำรุงผิวไม่สามารถทำงาน อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ขั้นที่ 3
การใช้มอยส์เจอไรเซอร์
:
มอยส์เจอไรเซอร์ คือ เครื่องสำอาง ที่เราทุกคนคงจะรู้จักเป็นอย่างดี ส่วนใหญจะใช้เป็นส่วนผสมในครีมบำรุงผิวหน้าเกือบทุกชนิ ดอยู่แล้ว
:
การใช้มอยส์เจอไรเซอร์จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่สำหรับผู้ชายแต่การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกันสำหรับคนมีสภาพผิวแห่ง และ ผิวแบบผสม ในส่วนโหนกแก้มที่เป็นผิวแห้ง แต่สำหรับผิว มัน และ ผิวธรรมดานั้นไม่จำเป็นต้อง ใช้แต่อย่างใด เพราะผิวจะผลิตน้ำมันออกมาเคลือบผิวอย่างเพียงพออยู่แล ้ว
:
สำหรับคนที่มีผิวแห้งมาก แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณ
แนะนำให้ใช้ มอยส์เจอไรเซอร์ร่วมกับครีม บำรุงผิวด้วย
:
เพราะการใช้ครีมบำรุงผิวอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ
แต่ไม่ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร ์ก่อนใช้ครีมบำรุงผิว
เพราะมอยส์เจอรไรเซอร์จะไปขัดขว้างไม่ให้ครีมบำรุงผิวซึมซาบสู่ผิวได้อย่างเต็มที่
:
ขั้นตอนการใช้ครีมบำรุงผิวที่ถูกต้อง ควรใช้หลังจากที่ทำความสะอาดใบหน้าเสร็จใหม่ๆ ในขณะที่หน้ายังหมาดๆ เมื่อทาครีมบำรุงผิวเสร็จแล้ว จึงค่อยทามอยส์เจอไรเซอร์ทับลงไปอีกครั้งหนึ่ง
:
ก่อนที่เราจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไร ควรศึกษาสภาพผิวตัวเองให้ดี ก่อนว่า เราเหมาะกับเครื่องสำอางแบบไหนไม่หยั่งงั้นแล้วจากที่จะได้ประโยชน์ อาจทำให้เกิดโทษก็เป็นได้
-
ขั้นที่ 4
ครีมกันแดด
:
เราคงรู้กันอยุ่แล้วว่า แสงแดด คือศัตรูตัวฉกาจสำหรับผิวพรรณ
เพราะ รังสี Uv จากแสงแดดสามารถทำลายเซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการใหม้ ริ้วรอยหมองคล้ำ และที่น่ากลัวที่สุด คือ อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้น การป้องกันอันตรายจาก แสงแดด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ
:
การใช้ครีมกันแดด เข้ามาช่วยดูแลปกป้องผิว จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ของการดูแลผิว แต่ถึงอย่างไรประสิทธิของครีมกันแดด ในปัจจุบันก็ยังมีขีดจำกัดอยู่ การใช้ครีมกันแดดอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถปกป้องผิวจาก รังสี UV ได้ทั้งหมด
:
ซึ่งนั่นหมายความว่าถึงเราจะใช้ครีมกันแดดเป็นประจำเมื่อต้องออกกลางแจ้ง แสงแดดก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามาทำร้ายผิวเราได้อยู่ดีเราควรใช้วิธีอื่นๆเข้ามาช่วยด้วย เช่น การใส่หมวกปีกกว้าง,แว่นตากันแดด หรือ ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด เป็นต้น
:
#การเลือกใช้ครีมกันแดด
:
ครีมกันแดดส่วนใหญ่ที่มีในท ้องตลาด จะมีส่วนผสมของ Zinc Oxide (ซิงค์อ๊อกไซด์) และ Titanium Oxide (ไททาเนียม ออกไซด์ ) เป็นหลัก ซึ่งสารเคมีทั้ง 2 ตัวนี้จะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ดี แต่ข้อจำกัดของครีมกันแดดก็คือมันหลุดออกได้ง่าย ไม่ติดทนนาน สาเหตุก็เกิดจาก เหงื่อ การเช็ดหน้า อากาศร้อนอบอ้าว หรือ การโดนน้ำ เป็นต้น
:
การใช้ครีมกันแดดให้ถูกวิธี จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ครีมกันแดดสามารถทำงานได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพ
:
การเลือกใช้ครีมกันแดดในแต่ละ กิจกรรม ควรเลือกให้เหมาะสม
เพราะหากเราใช้ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีได้
:
ค่า SPF (Sun Protection Factor) ที่เหมาะกับกิจกรรมต่างๆ ประจำวัน
ทำงานในห้อง SPF 15
เดินทางท่องเที่ยว SPF 20
ทำสวนหลังบ้าง SPF 25
เดินกลางแจ้งตอนกลางวัน ขับขี่ มอร์เตอร์ไซต์ SPF 30
เล่นกีฬา ทางบก SPF 40
เล่นกีฬา ทางน้ำ SPF 50
:
หวังว่าพอจะเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ในการป้องกัน
อันตรายจากแสงแดดกันได้นะครับ
เพื่อสุขภาพผิวที่ดีและอ่อนวัย
- ขั้นที่ 5
การผลัดเซลล์ผิว
:
ก็เดินทางมาถึงบันไดสู่ผิวดีพร้อมในขั้นสุดท้ายกันแล้ว
จาก
ขั้นที่ 1 การทำความสะอาด
ขั้นที่ 2 การใช้โทนเนอร์
ขันที่ 3 การใช้มอยส์เจอไรเซอร์
ขันที่ 4 การใช้ครีมกันแดด
มาสู่ขั้นสุดท้าย ขั้นที่ 5 การผลัดเซลล์ผิว
:
ปกติร่างกายของเรา จะผลัดเซลล์ผิวเองตามธรรมชาติอยู่แล้ว
ในคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี จะผลัดเซลล์ผิว 3 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง
แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น การทำงานของกระบวนการผลัดเซลล์ผิวก็จะช้าลง ก่อเกิดการสะสมของชั้นผิว ทำเป็นเกิดเป็นรอยเหี่ยวย่น หยาบกร้าน และมีร่องลึกที่ชัดเจน
บนใบหน้า มากขึ้น เนื่องจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่ยอมหลุดออกไป
:
การผลัดเซลล์ผิว นั้นจะมีวิธีการ อยู่ 2 วิธี
:
1.การผลัดเซลล์ผิวแบบ Mechanical Exfoliants หรือการใช้แรงเข้าช่วยในการ ผลัดเซลล์ผิว เช่น การ สครับ ต่างๆ สครับกาแฟ สครับเกลือ การขัดหน้า การนวดหน้า การใช้ใยบวบ หรือใช้มือถูแรงๆ การทำด้วยวิธีนี้จะทำให้ผิว เกิดการระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งและแพ้ง่าย ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
- 2.การผลัดเซลล์ผิวแบบ Chemical Exfoliants คือการใช้สารสกัดทางเคมีเข้าช่วย ที่นิยมกันในวงการเครื่องสำอาง คือ AHA และ BHA ซึ่งสารเหล่านี้จะมีอยู่ในผักและผลไม้ตามธรรมชาติ
เช่น มะนาว มะขาม ส้ม แต่เราไม่ควรจะนำมาใช้โดยตรงเพราะเราไม่สามารถกำหนดปริมาณที่ถูกต้องได้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวทางที่ดีควรหาผลิตภัณฑ์ที่เขามีขายตามท้องตลาดมาใช้ดีกว่าเพราะเขาได้กำหนดปริมาณที่ได้มาตราฐานมาแล้ว
:
ผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวก็มีมาก มายหลายแบบ เช่น
สครับ มาร์กหน้า เซรั่ม หรือ ครีม บำรุง ก็แล้วแต่เราจะเลือกใช้
:
#ควรผลัดเซลล์ผิวบ่อยแค่ไหน
อันนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และผลิตภัณฑ์ที่เรา
เลือกใช้ ว่ามันเหมาะกับสภาพผิวตัวเองหรือไม่
อย่างคนที่มีผิวหน้ามัน ก็อาจจะสัปดาห์ ละ 2 ครั้ง หรือมากกว่านั้นก็ได้ ถ้าทำให้สภาพผิวดีขึ้น
:
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับทั้ง 5 ขั้นตอน ของการดูแลผิวพรรณ ให้ดีพร้อม ดูเป็นเรื่อง ยุ่งยากกันรึเปล่า สำหรับท่านชายทั้งหลาย ยังไงก็เลือกไปปรับใช้กันเอานะครับ เราไม่จำเป็นต้องทำทุกขึ้นตอน ก็ได้
:
แต่ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดที ่เราจะละเลย ไม่ได้นั้นก็คือ
“การทำความสะอาด” อันนี้ต้องทำเป็นประจำทุกวัน
:
โฟมล้างหน้าที่ดีมีประสิทธิภาพ ใช้วัตถุดิบที่ปลอดภัย จากธรรมชาติ จะเป็นตัวช่วยให้เรา
ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างสะอาดหมดจดมากขึ้น ที่สำคัญ คือ ทำให้เราหน้าเราใสแบบไร้สิว
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าประสิทธิภาพสูง
ก็หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน ์จากส่ิงที่เรานำมาแบ่งปันนะครับ
:
สามารถแชร์ เก็บไว้ดูภาพยหลังได้
ขอบคุณที่ิติดตามกันมาตลอดนะครับ